สนใจติดต่อ
พรพรหม ถึงอินทร์
061-615-9257 Phronphromthung@gmil.com
Share

ดีไรโบส เป็นน้ำตาลโมเลกุล 5 เหลี่ยมที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เอง และเป็นสารสำคัญในกระบวนการทางเคมีที่สำคัญหลายปฏิกิริยาในสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปฏิกิริยาการหายใจระดับเซลล์ และการผลิตพลังงานให้เซลล์ใช้ ดีไรโบสเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างโมเลกุลชื่อ ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นพลังงานชีวิตของเซลล์แต่ละเซลล์ ดีไรโบส ยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างโมเลกุลชื่อ NAD (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) และ FAD (Flavin Adenine Dinucleotide) ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญในกระบวนการหายใจของเซลล์ และยังเป็นโครงสร้างหลักของหน่วยพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ (DNA) และหน่วยสังเคราะห์โปรตีน หรืออาร์เอ็นเอ (RNA)

สี่สารอาหารสำคัญที่มีผลอย่างยิ่งยวดต่อการสร้างพลังงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ และทำให้หัวใจของเราทำงานเป็นปกติ คือ โคเอนไซม์คิวเทน แอลคาร์นิทีน แมกนีเซียม และน้ำตาลดีไรโบส ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์ผลิตน้ำตาลดีไรโบสได้เอง แต่ขบวนการผลิตค่อนข้างช้า และอวัยวะแต่ละอวัยวะก็ผลิตน้ำตาลดีไรโบสได้ไม่เท่ากัน อวัยวะที่ต้องใช้พลังงานมากจะผลิตได้มาก เพราะจำเป็นต้องใช้ดีไรโบสจำนวนมาก ได้แก่ ตับ ต่อมหมวกไต เซลล์ไขมัน ส่วนเซลล์หัวใจ เซลล์สมอง เซลล์เนื้อเยื่อประสาท เซลล์ประสาท เส้นประสาท และ เซลล์กล้ามเนื้อจะผลิตแค่ปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละวัน

หัวใจกับดีไรโบส หัวใจผลิตดีไรโบสได้แค่เพียงพอสำหรับการทำงานในแต่ละวัน ในสภาพที่การทำงานของหัวใจแข็งแรงเป็นปกติ แต่ในผู้ที่สุขภาพหัวใจไม่แข็งแรง ซึ่งได้แก่กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือด จะเป็นกลุ่มที่พลังงานของกล้ามเนื้อหัวใจจะน้อยกว่าปกติ เซลล์หัวใจจะได้รับเลือด และออกซิเจนมาเลี้ยงเซลล์อย่างไม่สม่ำเสมอ การผลิตดีไรโบสจะทำได้น้อยลง และขบวนการผลิตจะช้ากว่าปกติมาก ทำให้พลังงานที่ผลิตได้ต่ำลงไปอีก ทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจจะไม่สดชื่น และเหนื่อยง่าย

ดีไรโบสกับการบำบัดโรคต่างๆ ในทางการแพทย์

• ป้องกัน และร่วมบำบัดโรคหัวใจ ให้พลังงานแก่หัวใจ

• อาการปวดทั่วตัว และอาการอ่อนล้า อ่อนแรง

• ให้พลังงานทั่วร่างกายทันที

• ให้พลังงานแก่กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น

• ช่วยอาการขากระตุกขณะหลับ ซึ่งผู้มีอาการมักจะนอนหลับไม่สนิท

• ช่วยให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น และลดความถี่ของการเป็นลมชัก

• ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานทำงานดีขึ้น

• ช่วยให้ไตทำงานดีขึ้น

• ปกป้องสมองจากความเสื่อม และร่วมบำบัดลมชัก

แมกนีเซียมกับการทำงานของหัวใจ หัวใจเป็นอวัยวะที่ต้องการแมกนีเซียมปริมาณมากที่สุดในบรรดาอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ และผนังหนาที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่สูบฉีดเลือดที่มีออกซิเจนซึ่งได้รับมาจากหัวใจห้องบนซ้ายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญในปฏิกิริยาเคมีในร่างกายมากกว่า 300 ปฏิกิริยา และทำหน้าที่ประสานการทำงานของเซลล์ต่างๆของกล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อให้หัวใจเต้นเป็นปกติ หากเรามีระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ และใจสั่น รวมถึงอาการหัวใจห้องล่างสั่นพริ้ว การได้รับปริมาณแมกนีเซียมอย่างเพียงพอจะทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ


References

1. Chronic Fatigue Syndrome Treatment Guide, Erica F. Verrillo
2. Omran, Heyder; McCarter, Dean; St Cyr, John; L?deritz, Berndt (2004). "D-ribose aids congestive heart failure patients". Experimental & Clinical Cardiology. Summer (9(2)): 117–118
3. "Dietary Supplement Fact Sheet: Magnesium". Office of Dietary Supplements, US National Institutes of Health. 11 February 2016. Retrieved 13 October 2016
4. "Magnesium Overview". China magnesium Corporation. Retrieved 8 May 2013

เอกสารเพื่อการอบรมภายในบริษัทเท่านั้น

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

คู่สร้างพลังงาน โคคิวเทน-แอล คาร์นิทีน

Related Products